เรื่องต้องรู้สำหรับการดูแลคนไข้ระยะสุดท้าย

การดูแลคนไข้ระยะสุดท้าย

สิ่งที่ปัจจุบันนี้กลายเป็นวาระแห่งชาติของสังคมไทยก็คือ คนป่วยด้วยโรคต่างๆ อันเป็นโรคที่รักษาไม่หาย หรือว่าโรคเรื้อรัง ซึ่งต้องบอกเลยว่าการป่วยด้วยโรคต่างๆ ดังที่กล่าวมานี้ ได้ส่งผลลัพธ์หลายๆ ด้านเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งผลต่อความเครียด หรือความกดดัน รวมไปถึงความรู้สึกตึงเครียดของผู้ดูแล อย่างไรก็ดี การดูแลคนไข้ระยะสุดท้าย เป็นสิ่งที่ต้องหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อให้ทำการรักษาได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเรื่องต้องรู้สำหรับการดูแลคนไข้ระยะสุดท้ายมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย 

1.ทำให้คนป่วยรู้สึกสุขกายและใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

สำหรับสิ่งแรกที่จัดได้ว่าเป็นหลักในการดูแลคนไข้ระยะสุดท้าย ก็คือการทำให้คนป่วยรู้สึกสุขกายและสุขใจมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากว่าเมื่อคนป่วยอยู่ในวาระสุดท้ายแล้วนั้น สิ่งที่จะตามมาก็คือ ความทุกข์ท้อ สิ้นหวัง ซึ่งก็เป็นหน้าที่สำหรับคนดูแลอีกด้วยนั่นเอง คนดูแลจะต้องทำหน้าที่คอยปลุกปลอบให้กำลังใจกับคนป่วย อาจจะกล่าวได้ว่าบทบาทหน้าที่หลักก็ไปอยู่กับคนดูแล แน่นอนเลยว่าคนดูแลย่อมจะต้องเครียด เมื่อเครียดแล้วความเครียดที่ว่านั้นย่อมส่งผลมาต่อที่ผู้ป่วยไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง เปรียบเสมือนการตีลูกปิงปองโต้กัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วหากว่าใครที่ต้องการให้การดูแลคนป่วยในระยะสุดท้ายเต็มประสิทธิภาพแล้วนั้น ก็ควรที่จะหาทางผ่อนคลายความเครียดให้ตนเองด้วยเป็นหลัก หรือว่าพยายามหาวิธีผ่อนคลายให้ตัวเอง เมื่อคนดูแลมีจิตใจที่สดใสและร่าเริง คนป่วยก็จะสดใส ร่าเริง มีกำลังใจมากขึ้น 

2.คนป่วยต้องไม่ติดค้างกับอะไรอีก 

สิ่งนี้จัดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก คนดูแลควรติดต่อเพื่อนฝูงเก่าๆ ของคนป่วย เพื่อที่จะให้คนป่วยได้คุยกับคนที่เคยสนิทสนมกัน ดีกว่าให้เขาจากไปกับความไม่รู้ รวมไปถึงการติดค้างกับอะไรก็ตามที ซึ่งบางครั้งคนป่วยเองก็มีความลับที่ไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้ ไม่ว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตามที ในส่วนนี้ คนดูแล ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานหรือว่าสามีภรรยาก็ควรที่จะเคารพการตัดสินใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

และนี่ก็คือเรื่องราวพื้นฐานเกี่ยวกับการดูแลคนไข้ระยะสุดท้าย ซึ่งบางเรื่องไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาการป่วยโดยตรง แต่เกี่ยวกับทางจิตใจเสียมากกว่า จะดีกว่าหรือไม่ หากว่ามีการดูแลสภาพจิตใจของคนป่วยเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และคนดูแลก็ต้องพยายามดูแลจิตใจของตนเองอีกด้วยนั่นเอง 

Carrie Olson

Learn More →